Back

      As the world entered the 20th century, advancements in modern communication propelled an immense influx of information into human awareness. People worldwide learned to navigate life within an information-driven society, where “Information Technology” became an integral part of daily life. However, Thailand faced a shortage of IT professionals, hindering the development and widespread application of IT across the country.

      In response, the Thai government declared the year 1995 as the “Year of Thai Information Technology” to accelerate IT adoption and the development of IT professionals within Thailand. It was during this pivotal year that the School of Information Technology, King Mongkut’s University of Technology Thonburi (SIT-KMUTT) was established as the first academic institution in Thailand to offer a degree program in Information Technology curriculum. At that time, only a handful of universities worldwide had degree programs explicitly named Information Technology.

     SIT-KMUTT officially commenced operations in the fiscal year 1995 and was formally established as a faculty in the university under the Royal Decree on the Division of King Mongkut’s University of Technology Thonburi, as published in the Royal Gazette, Volume 114, on May 21, 1997. The founding initiative was led by Dr. Krisanapong Kiratikorn, with the objective of producing graduates and postgraduate graduates in Information Technology to accellerate the growth of the IT industry, foster applied IT research, and provide IT-related academic services to both internal and external organizations.

     Initially, the school operated on the third floor of the Classroom Building 2 within the university. Later, on December 6, 2002, the School of Information Technology building was established and continues to serve as its main facility to this day. Additionally, SIT operated the Ratchaburi Campus Project, from 1996 to 2008, offering education through a distance learning model (Video Conference) with alternating in-class learning from Bangkok and Ratchaburi. This initiative extended educational opportunities to areas. beyond the Bangkok Metropolitan region

Continuous Development and Innovation

     The School of Information Technology has continually evolved across all dimensions. Academically, the school emphasizes hands-on learning, incorporating real-world business environments and collaboration with leading IT organizations through Workshop Learning, a model that has inspired many other institutions.

To support student learning, SIT offers e-learning systems and guidance from Learning Facilitators, enabling students to review and study independently. Faculty and staff are continuously trained to improve their teaching skills, ensuring high-quality education for students. Moreover, the school is committed to reducing energy consumption and paper use, integrating Internet technology into daily operations, and streamlining processes to promote environmental sustainability.

The school also fosters bilingual capabilities among faculty and students while preserving and promoting Thai cultural heritage by sharing technology with communities. This is part of its broader mission to bridge the digital divide in Thai society.

Since its inception, SIT-KMUTT has produced over 6,000 highly skilled IT professionals who have contributed to both academia and industry, earning widespread recognition and enhancing the university’s reputation.

สิงหาคม 2538

เปิดสอนหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต (ต่อเนื่อง 2 ปี) สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ

พฤศจิกายน 2538

เปิดสอนหลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ และจัดตั้งห้องสมุด SIT

มิถุนายน 2539

เปิดสอนหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต 2 ปี (ต่อเนื่อง) สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ ตามโครงการวิทยาเขตสารสนเทศราชบุรี โดยใช้ศาลาประชาคมประจำจังหวัดราชบุรีหลังเดิมเป็นพื้นที่การเรียนการสอน โดยสอนผ่านระบบการสอนทางไกล (VDO Conference) แบบสองทาง ระหว่างกรุงเทพกับราชบุรี

มิถุนายน 2540

จัดตั้งศูนย์ประสานงานภาษาอังกฤษ เพื่อให้เป็นไปตามพันธกิจของคณะฯ ในด้านการเรียนรู้โดยใช้สองภาษา มีผู้เชี่ยวชาญภาษาอังกฤษทั้งชาวต่างชาติและชาวไทยช่วยสนับสนุนการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ ให้กับนักศึกษา บุคลากรของคณะฯ นับเป็นคณะเดียวใน มจธ. ที่มีหน่วยบริการภาษาอังกฤษภายในคณะฯ

มิถุนายน 2541

กำหนดให้มีตำแหน่งผู้ช่วยสอน และได้เปลี่ยนชื่อเป็น “พนักงานส่งเสริมการเรียนรู้” (พฤศจิกายน พ.ศ. 2544) ทั้งนี้เพื่อสนับสนุนการเรียนรู้ให้แก่นักศึกษาระดับปริญญาตรีในวิชาต่างๆ ส่งเสริมการทำกิจกรรมของนักศึกษา รวมทั้งการสนับสนุนอาจารย์ในการพัฒนานักศึกษา

มิถุนายน 2542

เปิดการเรียนการสอนแบบสัมมนาเชิงปฏิบัติการ (Workshop) เริ่มสอนตั้งแต่ภาคการศึกษา 1/2542 โดยร่วมกับองค์กรเอกชนชั้นนำด้านไอที ได้แก่ IBM, Oracle และ 3 Com (ปัจจุบันเป็น HP) ในการกำหนดหลักสูตร Workshop ระดับปริญญาโท แผนวิชาชีพสายสัมมนาปฏิบัติการ ( IT Professional Workshop) กับองค์กร ผู้สำเร็จการศึกษาจะได้รับประกาศนียบัตรที่รับรองร่วมกันจากคณะฯ และองค์กรที่ร่วมมือ

เมษายน 2543

เปิดสอนหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ (ภาษาอังกฤษ) เพื่อสร้าง นักวิจัยที่มีความรู้ความสามารถทางวิทยาการคอมพิวเตอร์ในระดับมาตรฐานสากล

เมษายน 2543

เปิดสอนหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ (ภาษาอังกฤษ) นับเป็นคณะเทคโนโลยีสารสนเทศแห่งแรกในประเทศไทยที่เปิดสอนครบทั้ง 3 ระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก

มิถุนายน 2543

เปิดสอนหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ (หลักสูตรภาษาอังกฤษ)

เมษายน 2544

แต่งตั้งคณะกรรมการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน (Productivity Improvement) เพื่อร่วมกำหนดทิศทางและส่งเสริมการทำงานของบุคลากรร่วมกัน เพื่อนำคณะไปสู่การมีระบบการทำงานที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล

ตุลาคม 2544

จัดตั้งศูนย์วิจัยบริการอิเล็กทรอนิกส์ (E-Service Research Center: ESRC) เพื่อวัตถุประสงค์ ให้การบริการด้านการศึกษา วิจัย และวิเคราะห์การใช้ประโยชน์และสมรรถนะของบริการ อิเล็กทรอนิกส์ในรูปแบบต่างๆ เช่น ธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (e-Business) และรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (e-Government) การปฏิบัติงานในศูนย์แห่งนี้ทำให้คณาจารย์คณะฯ ได้มีส่วนร่วมช่วยแก้ไขปัญหาด้านไอทีของประเทศ และได้นำประสบการณ์นั้นมาถ่ายทอดให้กับนักศึกษา

พฤษภาคม 2545

เปิดบริการ e-Learning เพื่อให้นักศึกษาใช้ทบทวนบทเรียนโดยให้บริการในหลากหลาย รูปแบบ อาทิเช่น DVD และ CD การสอนแต่ละรายวิชา รวมทั้งการนำเสนอบันทึกการสอนบนเว็บไซต์ห้องเรียนออนไลน์ (SIT Classroom on Demand) ในหลักสูตรปริญญาตรีและปริญญาโท

มิถุนายน 2545

จัดทำประติมากรรมสัญลักษณ์ประจำคณะชื่อ “Information Evolution” เป็นประติมากรรมที่ทำด้วยทองหล่อสัมฤทธิ์ (Bronze) ออกแบบและสรรค์สร้างโดยอาจารย์ชำเรือง วิเชียรเขตต์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (ประติมากรรม) โดยมีความหมายว่า “ตราบใดที่โลกยังมีสิ่งมีชีวิต การสื่อสารที่ฉับไวของมวลมนุษย์ชาติจะครอบคลุมไปทั่วโลก”

ตุลาคม 2545

เปิดสอนหลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการศึกษาวิจัยทางด้านธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์และพัฒนารูปแบบธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในตลาดการค้าทั้งภายในและภายนอกประเทศ

ธันวาคม 2545

ย้ายที่ทำการคณะฯ จากอาคารเรียนรวม 2 ชั้น 3 มาที่อาคารคณะเทคโนโลยีสารสนเทศ

เมษายน 2546

เปิดสอนหลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาชีวสารสนเทศ (หลักสูตรนานาชาติ) ร่วมกับคณะทรัพยากรชีวภาพและเทคโนโลยี เป็นหลักสูตรที่มีความสมดุลระหว่างชีววิทยาศาสตร์ทางด้านจีโนมและเทคโนโลยีสารสนเทศ

มิถุนายน 2547

เปิดสอนหลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมซอฟต์แวร์ เพื่อให้เสริมสร้างและพัฒนาความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการวิศวกรรมซอฟต์แวร์ รวมทั้งเป็นการสนับสนุนอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ของประเทศให้ก้าวหน้าไปได้ด้วยดี

พฤษภาคม 2549

รับมอบเครื่อง Mainframe Computer IBM z Series รุ่น z890 จากบริษัท ชายน์นิ่ง โอเปอเรชั่น จำกัด และบริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด เพื่อใช้ในการศึกษา วิจัยและการพัฒนาทักษะด้าน เทคโนโลยีสารสนเทศ

กุมภาพันธ์ 2550

ขยายพื้นที่การใช้งานชั้น 4 ของอาคารคณะเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อส่งเสริมกิจกรรมการพัฒนานักศึกษา และเพื่อการจัดประชุม/สัมมนาในโอกาสพิเศษต่างๆ ของคณะฯ

กุมภาพันธ์ 2551

จัดตั้งศูนย์ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนางานวิจัย (Research Initiation Support and Promotion Section: RISP) เพื่อทำหน้าที่ขับเคลื่อนและผลักดันงานวิจัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ตามเป้าหมายการพัฒนางานวิจัยตามกรอบการวิจัยแห่งชาติและทิศทางกลยุทธ์ วิสัยทัศน์ 5 มุ่ง ของ มจธ. คือ “มุ่งสู่ ความเป็นเลิศในเทคโนโลยีและการวิจัย” และเพื่อให้สำเร็จตรงตามพันธกิจของคณะ “สรรหาและสร้างสรรค์องค์ความรู้ที่สามารถใช้สร้างความมั่งคั่งทางสารสนเทศในสังคมไทย”

สิงหาคม 2551

สนับสนุนการใช้งานซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส โดยจัดสร้างพื้นที่ให้บริการเป็น Ubuntu Releases Mirror อย่างเป็นทางการแห่งแรกในประเทศไทย พร้อมเปิดให้บริการสำหรับผู้ที่สนใจ ผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอฟร์ส Ubuntu ที่ http://ubuntu-releases.sit.kmutt.ac.th

มกราคม 2552

ประกาศความสำเร็จและสิ้นสุดภารกิจในการต่อสู้กับความขาดแคลนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ใน
งาน “12 ปี SIT ราชบุรี ฉลองความสำเร็จภารกิจราชบุรี” ณ โรงแรมเวสเทิร์นแกรนด์ จ.ราชบุรี

เมษายน 2552

โอนย้ายศูนย์นวัตกรรมระบบ (System Innovation: SI) ซึ่งมีหน้าที่ ในการบริหารจัดการระบบการทำงาน มาสังกัดคณะเทคโนโลยีสารสนเทศ

เมษายน 2552

ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) จัดทำกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติด้านคอมพิวเตอร์ (Thailand Qualifications Framework for High Education: TQF)

กันยายน 2552

จัดตั้งห้องปฏิบัติการวิจัย SIT-NTC Telecommunication Research Laboratory เพื่อผลักดันงานวิจัยด้านโทรคมนาคม ภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างคณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มจธ. กับสถาบันวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมโทรคมนาคม (TRIDI) ในสังกัดคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.)

ธันวาคม 2552

ร่วมมือกับคณาจารย์ Illinois State University ในการวิจัยเกี่ยวกับ E-Services for Aging Society

ปรับเปลี่ยนเครื่อง Mainframe Computer IBM z Series รุ่น z890 ที่รับมอบจากบริษัท ชายน์นิ่ง โอเปอเรชั่น จำกัด และบริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด เป็นรุ่น z10 BC เพื่อเพิ่มศักยภาพการทำงานให้สูงขึ้น

เมษายน 2553

เจรจาความร่วมมือทางวิชาการกับมหาวิทยาลัย Illinois State University (USA), York University, (Canada), University of Toronto(Canada) เรื่องการแลกเปลี่ยนนักศึกษา และอาจารย์เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ร่วมกัน

พฤศจิกายน 2553

ร่วมหารือและเจรจาความร่วมมือทางวิชาการ การพัฒนาบุคลากรและการวิจัยกับ Chalmers is a university of technology ประเทศสวีเดน และ Aalborg University (AAU) ประเทศเดนมาร์ก

มกราคม 2554

ลงนามความร่วมมือกับบริษัท IBM จัดตั้งศูนย์บ่มเพาะความเป็นเลิศทางเทคโนโลยี (Exellent Center) เพื่อผลิตบุคลากรไอทีที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ป้อนสู่สังคมไอทีของไทยและสากล

กุมภาพันธ์ 2554

จัดตั้งห้องปฏิบัติการวิจัยวิศวกรรมข้อมูลและความรู้ D-Lab เพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ ค้นคว้า วิจัย ทางด้านเกี่ยวกับข้อมูล หรือสารสนเทศ ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น ข้อมูลสถิติ ข้อมูลทางธุรกิจ ข้อมูลทางชีวภาพ ข้อมูลรูปภาพ ข้อมูลกราฟิกส์ เป็นต้น และสร้างคลังรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ ทดลอง พัฒนาโปรแกรมประยุกต์ หรือซอฟต์แวร์แอปพลิเคชัน และการประยุกต์ข้อมูลด้านอื่น ๆ รวมทั้งการเป็นผู้สร้างต้นแบบความรู้เพื่อใช้เป็นแหล่งอ้างอิงให้แก่นักวิจัยด้านข้อมูล